เดินทาง : 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2567
ค่าบริการ
- ผู้ใหญ่ (10 – 14 ท่าน) : 145,000.- บาท
- ผู้ใหญ่ (15 – 19 ท่าน) : 129,000.- บาท
- พักเดี่ยวเพิ่ม : 37,000.- บาท



อุไดปูร์
ล่องเรือแบบ Private
ชมความงามของทะเลสาบพิโชลา ในบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน นั่งรถคลาสสิกวินเทจสุดเก๋ ชมความงามของเมือง
จัยซัลแมร์
สมญานาม “นครสีทอง” ขี่อูฐท่องทะเลทรายธาร์ กับทิวทัศน์โค้งขอบฟ้าจรดกับผืนทราย พร้อมมื้อเย็นสุด Exclusive กลางทะเลทรายและโชว์ระบำประจำรัฐราชสถาน
จัยปูร์
มหานครสีชมพู ชมป้อมแอมเบอร์ มรดกโลกทางวัฒนธรรมอันโด่งดัง พักโรงแรม 5 ดาว ทุกคืน และอยู่เที่ยวเมืองหลักที่ละ 2 คืน ไม่ต้องเหนื่อยย้ายโรงแรมทุกคืน
DAY 01 : อังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 กรุงเทพฯ – เดลี
17.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทย (ROW H/J) ประตูทางเข้า 3 เจ้าหน้าที่ชัยทัวร์คอยต้อนรับ
20.00 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน TG 315 (4.30 ชม.)
23.00 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงเดลี (Delhi) ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง
ที่พัก HOTEL PULLMAN NEW DELHI AEROCITY (5*) หรือเทียบเท่า
DAY 02 : พุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เดลี – อุไดปูร์
อาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านสู่สนามบิน
10.55 น. ออกเดินทางโดยสายการบินแอร์อินเดีย (Air India) เที่ยวบิน AI 469 (1.20 ชม.)
12.15 น. ถึงสนามบินสู่ เมืองอุไดปูร์ (Udaipur) หรือ เมืองอุทัยปุระ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นราชสถาน และอยู่ริมทะเลสาบพิโชลา สถาปนาขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 โดย มหารานา อุได สิงห์ ที่ 2 (Maharana Udai Singh II) ทำให้กลายเป็นราชธานีแห่งที่ 2 ของอาณาจักรเมวาร์ (Mewar Kingdom) ต่อจากเมืองจิตตอร์การ์ (Chittorgarh) ซึ่งเป็นราชธานีแห่งแรกของอาณาจักร
อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
Vintage and Classic Car Museum
รถยนต์เหล่านี้เป็นคอลเลกชันสะสมของมหารานา อาร์วินด์ สิงห์ (Maharana Arvind Sing) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เปิดตัวตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000 โดยมีลอร์ดมอนตากูแห่งโบลิเออร์ (Lord Montagu of Beaulieu) ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ยานยนต์แห่งชาติ ประเทศอังกฤษ เป็นประธานในพิธีเปิด
นำท่านชม Vintage and Classic Car Museum ที่จัดแสดงรถยนต์วินเทจ หรือ รถยนต์คลาสสิค ซึ่งบางคันว่ากันว่าหาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว หลังจากนั้นเปิดประสบการณ์นั่งรถคลาสสิกวินเทจ (Vintage Car Ride)
(นั่งคันละ 3 ท่าน) พาท่านเที่ยวชมรอบเมืองอุไดปูร์ที่ขึ้นชื่อด้วยความโรแมนติก เพียบพร้อมไปด้วยความงดงามของทะเลสาบ, พระราชวัง และความมีชีวิตชีวาของผู้คน
อาหารค่ำที่โรงแรม
ที่พัก HOTEL TRIDENT UDAIPUR (5*) หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืน)



DAY 03 : พฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 อุไดปูร์
อาหารเช้าที่โรงแรม
นำชม City Palace พระราชวังหลวงที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นราชสถาน มีพื้นที่ประมาณ 5 เอเคอร์ จริง ๆ แล้วที่ City Palace แห่งนี้เป็นที่ตั้งของหลายราชวังจากหลายรัชสมัย พระราชวังหลังแรกเริ่มสร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 – 20 รวมทั้งสิ้น 22 รัชกาล จึงทำให้มีรูปแบบการสร้างที่สวยงาม แปลกตาทั้งศิลปะแบบแคว้นราชสถานและการตกแต่งแบบโมกุล
Udaipur City Palace
ศูนย์กลางความวิจิตรอลังการแห่งเมืองอุไดปูร์ตัวพระราชวังถูกสร้างจากหินแกรนิตและหินอ่อนที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม ภายในประดับประดาด้วยงานกระจกและแก้วหลากสี



อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
นำท่านเข้าที่พัก ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
16.00 น. นำท่าน ล่องเรือที่ทะเลสาบพิโชลา (Pichola Lake) (Private Boat) หนึ่งในทะเลสาบที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในอุไดปูร์ ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่หรูหราอลังการของพระราชวังจากริมน้ำและทิวทัศน์รอบทะเลสาบยามแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมากระทบผิวน้ำ


อาหารค่ำที่ภัตตาคาร
DAY 04 : ศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 อูไดปูร์ – รานัคปูร์ – จอดห์ปูร์
อาหารเช้าที่โรงแรม
เดินทางสู่ เมืองรานัคปูร์ (Ranakpur) (93 กม. / 2.30 ชม.) เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในหุบเขาสีเขียวชอุ่มของเทือกเขาอราวัลลีและเป็นที่ตั้งของวัดเชน หนึ่งในสถาปัตยกรรมที่มีความยิ่งใหญ่อลังการและวิจิตรตระการตาที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย
นำท่านชม วัดเชน (Jain Temple) เป็นวิหารของศาสนาเชน สร้างโดยคหบดี Dharna Shah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในประกอบไปด้วยห้องโถงกว่า 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดม และเสาถึง 1,444 ต้น แต่ละต้นถูกแกะสลักลวดลายอย่างงดงาม คิดเป็นพื้นที่แกะสลักกว่า 3,000 ตารางเมตร
Jain Temple Ranakpur
จุดเด่นภายในวัดแห่งนี้ คือ งานแกะสลักหินอ่อนที่สวยงาม วิจิตร มีรายละเอียดแทบไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละเสา แต่ละโดม ที่อยู่ภายใน โดยเฉพาะแชนเดอเลียร์หินอ่อนที่ห้อยลงมาจากหลังคาโดมของวิหารนั้นสวยงามโดดเด่นไม่แพ้คริสตัลเลย





อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
เดินทางสู่ เมืองจอดห์ปูร์ (Jodhpur) (156 กม. / 3.30 ชม.) หรือ เมืองโชติปุระ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐราชสถาน รองจากจัยปูร์ มีอีกชื่อว่า “เมืองสีฟ้า” เนื่องจากบ้านเรือนต่างทาด้วยสีฟ้าเต็มไปหมด เหตุผลเชื่อกันว่าที่ตั้งของเมืองอยู่ในแถบทะเลทรายอันร้อนระอุและสีฟ้าสามารถกันรังสีจากแสงแดดได้ดีกว่าสีอื่น อีกประการหนึ่งคือ สีฟ้าเป็นสีของวรรณะพราหมณ์ ซึ่งที่เมืองนี้มีชาววรรณะพราหมณ์อาศัยอยู่มากนั่นเอง

นำท่านเดินเล่นที่ Clock Tower Market ชมบรรยากาศความคึกคักของผู้คนที่มาเดินจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า พร้อมทั้งมีจุดแลนด์มาร์กหอคอยนาฬิกาเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ตัวนาฬิกายังคงบอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรงด้วยระบบกลไกโบราณ


อาหารค่ำที่โรงแรม
ที่พัก TAJ HARI MAHAL HOTEL (5*) หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืน)
DAY 05 : เสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 จอดห์ปูร์
อาหารเช้าที่โรงแรม
*เปลี่ยนพาหนะเป็นรถจิ๊ป 4WD (นั่งคันละ 4 ท่าน)
นำท่านชม หมู่บ้านชนพื้นเมืองบิชนอย (Bishnoi Village) เป็นหมู่บ้านกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่า ที่มีชื่อเสียงจากการสละชีวิตเพื่อรักษาต้นไม้ โดยเรื่องราวของพวกเขาได้รับการบันทึกว่า ในปี ค.ศ.1730 กลุ่มชาวบ้านจำนวน 363 คน ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารของมหาราชาตัดต้นไม้ ความกล้าหาญนี้ทำให้มหาราชาประกาศว่าจะไม่แตะต้องต้นไม้ และสัตว์ป่าในพื้นที่ของหมู่บ้านนับตั้งแต่นั้นมา จากนั้นเดินทางกลับที่พัก

อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
*เปลี่ยนพาหนะกลับเป็นรถบัส
ชม อนุสรณ์สถานจาสวานต์ธาดา (Jaswant Thada) ก่อสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง และเป็นที่ฝังศพของมหาราชาจาสวานต์ สิงห์ที่ 2 (Jaswant Singh II) และคนอื่นๆ ในราชวงศ์ จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์พระราชวังอุเมดพาวัน (Umaid Bhawan Palace Museum) ส่วนหนึ่งของพระราชวังที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยภายในยังมีคอลเลกชันรถคลาสสิกวินเทจของมหาราชาไว้จัดแสดงอีกด้วย





นำท่านชม ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort) นับเป็นป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดียที่สามารถมองเห็นได้อย่างโดดเด่นไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของเมือง ภายในตกแต่งประดับประดาด้วยแก้วหลากสี แบ่งเป็นห้องหรือท้องพระโรงขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง



อาหารค่ำที่โรงแรม
DAY 06 : อาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 จอดห์ปูร์ – จัยซัลแมร์
อาหารเช้าที่โรงแรม
เดินทางสู่ เมืองจัยซัลแมร์ (Jaisalmer) (265 กม. / 5 ชม.) ที่ได้สมญาว่า “เมืองสีทอง” เนื่องจากบ้านเรือนสร้างขึ้นโดยใช้สีเดียวกับทราย คือโทนน้ำตาล และเมื่อแสงแดดตกกระทบทรายและบ้านเรือนก็จะเห็นเป็นสีทองสวยงาม แต่เหตุผลที่บ้านเรือนสร้างโดยใช้สีโทนนี้ว่ากันว่าการใช้สีเดียวกับทรายนั้นจะช่วยอำพรางบ้านเรือนและป้อมปราการในทะเลทรายสีทอง เพื่อซ่อนเมืองให้พ้นจากสายตาผู้ที่อาจจะมารุกรานนั่นเอง



อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
นำท่านชม ป้อมจัยซัลแมร์ (Jaisalmer Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่มีหอรบถึง 99 หอ และยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในป้อมปราการไม่กี่แห่งที่ได้ชื่อว่าเป็น “ป้อมปราการที่มีชีวิต” สาเหตุที่เรียกขานกันแบบนั้นก็เพราะสัดส่วนประชากรหนึ่งในสี่ของโซนเมืองเก่านั้นยังคงอาศัยอยู่ภายในป้อมนั่นเอง
Jaisalmer Fort
ภายในป้อมเป็นที่ตั้งของกลุ่มวัดเชน (Jain Temples) 7 วัด ที่มีทางเชื่อมต่อถึงกันได้ โดยมีวัดประธานขนาดใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า ซานดราปราพู (Chandraprabhu Temple) ภายในวัดมีการแกะสลักลวดลายอันวิจิตรบรรจง ไม่ว่าจะเป็นเพดาน ผนัง และยังมีรูปปั้นของพระมหาวีระ (Mahavira) ศาสดาของศาสนาเชน ตั้งเป็นประธานอยู่ตรงกลาง



อาหารค่ำที่โรงแรม
ที่พัก MARRIOTT RESORT & SPA (5*) หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืน)
DAY 07 : จันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 จัยซัลแมร์ – เนินทรายแซม
อาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านชม ฮาเวลีซาลิมซิงห์กี (Salim Singh Ki Haveli) และ ฮาเวลีนาทมาลกี (Nathmal Ki Haveli) คฤหาสน์ของคหบดี เนื่องจากเมื่อก่อนจัยซัลแมร์เคยเป็นเมืองเส้นทางการค้าที่สำคัญ ทำให้คหบดีและพ่อค้าในยุคนั้นร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี จึงได้มีการสร้างคฤหาสถ์ขึ้นมา โดยเน้นที่ความสวยงามเป็นหลัก





อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านสู่ เนินทรายแซม (Sam Sand Dunes) (40 กม. / 1 ชม.) *เปลี่ยนพาหนะเป็นรถจิ๊ป 4WD (นั่งคันละ 4 ท่าน) นั่งรถจิ๊ปตะลุยไปในทะเลทรายและขี่อูฐเพื่อเดินทางไปยังสันทรายที่สวยงามและเหมาะจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก
*พิเศษ* อาหารค่ำที่แคมป์กลางทะเลทรายพร้อมชมการแสดงระบำประจำรัฐราชสถาน




หลังจากนั้นนำท่านกลับที่พัก
อาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านชมและถ่ายรูปบริเวณ ทะเลสาบกาดิซาร์ (Gadisar Lake) ทะเลสาบเก่าแก่ที่ในอดีตเคยเป็นแหล่งน้ำสำคัญประจำเมือง แต่ปัจจุบันจะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในเมืองแทน



จากนั้นนำชม ฮาเวลีพัทวอนกี (Patwon Ki Haveli) หรือ คฤหาสน์หรูศิลปะราชปุตของกุมัน ซันด์ พัตวา (Guman Chand Patwa) คหบดีผู้มั่งคั่งจากการค้าขายเครื่องประดับเงิน,ทอง ซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 50 ปี

อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านสู่สนามบิน
15.55 น. ออกเดินทางโดยสายการบินอินดิโก (Indigo) เที่ยวบิน 6E 7677 (1.40 ชม.)
17.35 น. ถึงสนามบินเมืองจัยปูร์ (Jaipur) หรือ ชัยปุระ ที่มหาราชาไสวจัยสิงห์ที่ 2 (Sawei Jai Singh II) เป็นผู้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1727 โดยเป็นเมืองหลวงของรัฐราชสถานและได้ชื่อว่า นครสีชมพู (Pink City) เนื่องจากในสมัยที่อินเดียเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ได้มีเจ้าชายเสด็จประพาสเมืองจัยปูร์ มหาราชาจึงมีรับสั่งให้ประชาชนทาสีบ้านเรือนให้เป็นสีชมพูเพื่อถวายพระเกียรตินั่นเอง


อาหารค่ำที่ภัตตาคาร
ที่พัก MARRIOTT JAIPUR (5*) หรือเทียบเท่า
DAY 08 : พุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 จัยปูร์ – เดลี
อาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านนั่งรถจิ๊ป (นั่งคันละ 4 ท่าน) ขึ้นชม ป้อมปราการแอมเบอร์ (Amber Fort) ซึ่งแต่เดิมใช้เป็นพระราชวังที่ประทับของมหาราชามันสิงห์ (Maharaja Man Singh) และเป็นป้อมปราการระวังภัยจากศัตรู เนื่องจากตั้งอยู่บนยอดเขาทำให้ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์เป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในป้อมที่สง่างามที่สุดของอินเดีย อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานของฮินดูและโมกุล รวมถึงทัศนียภาพอันสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้กำแพงทั้ง 4 ชั้น



นำชม พานนา มีนา กา คุนด์ (Panna Meena Ka Kund) หรือ บ่อน้ำโบราณแบบขั้นบันได สิ่งที่ตรึงตรานักท่องเที่ยวและทำให้ถ่ายรูปสวยคือการออกแบบของที่เป็นแบบขั้นบันไดซิกแซก ลึกลงไป 8 ระดับ จากนั้นเดินทางกลับเข้าเมืองจัยปูร์


อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
แวะถ่ายรูปกับ พระราชวังฮาวามาฮาล (Hawa Mahal Palace) หรือ พระราชวังแห่งสายลม มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายออกแดงคล้ายสีปูนแห้ง เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์เปอร์เซียกับโมกุล จุดเด่นคือ ลวดลายฉลุหินตามหน้าต่างช่องระบายอากาศที่บรรดานางสนมในวังใช้เป็นที่มองดูชีวิตของสามัญชนทั่วไป


หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่กรุงเดลี (Delhi) 309 กม. / 6 ชม.)
อาหารค่ำที่ภัตตาคาร
ที่พัก HOTEL PULLMAN NEW DELHI AEROCITY (5*) หรือเทียบเท่า
DAY 09 : พฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เดลี – กรุงเทพฯ
อาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านสู่สนามบิน
11.10 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน TG 324 (4 ชม.)
16.40 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
เดินทางกลับถึงบ้านด้วยความสนุกสนานและประทับใจยิ่ง
หมายเหตุ : กำหนดการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างตามเหตุการณ์และความเหมาะสม
อัตราค่าบริการ (ไม่รวมตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ)
- ผู้ใหญ่ (10 – 14 ท่าน) : 145,000.- บาท
- ผู้ใหญ่ (15 – 19 ท่าน) : 129,000.- บาท
- พักเดี่ยวเพิ่ม : 37,000.- บาท
หมายเหตุ : ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศสายการบินไทย (TG)
6 ก.พ. 67 : TG 315 BKK – DEL 20.00 – 23.00
15 ก.พ. 67 : TG 324 DEL – BKK 11.10 – 16.40
ชั้นทัศนาจร : เริ่มต้นที่ 22,000.- บาท / ชั้นธุรกิจ เริ่มต้นที่ 50,000.- บาท
อัตรานี้รวม
- ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ สายการบินแอร์อินเดีย (Air India) – ชั้นทัศนาจร (กระเป๋า 1 ใบ / 25 กก.)
7 ก.พ. 67 AI 469 DEL – UDR 10.55 – 12.15 - ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ สายการบินอินดีโก (Indigo) – ชั้นทัศนาจร (กระเป๋า 1 ใบ / 25 กก.)
13 ก.พ. 67 6E 7677 JSA – JAI 15.55 – 17.35 - ที่พักตามรายการ (พักห้องละ 2 ท่าน)
- อาหารจัดเลี้ยงตามระบุในรายการ
- ค่าพาหนะนำเที่ยวโดยรถบัส 45 ที่นั่ง ปรับอากาศ พร้อมค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ
- ค่าธรรมเนียมวีซ่าอินเดีย
- ประกันอุบัติเหตุการเดินทางในวงเงินท่านละ 2,000,000 บาท
- มัคคุเทศก์จากชัยทัวร์ 1 ท่าน และมัคคุเทศก์ท้องถิ่นชาวอินเดีย 1 ท่าน ดูแลตลอดการเดินทาง
- ค่าทิปพนักงานขับรถ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
อัตรานี้ไม่รวม
• ค่าหนังสือเดินทาง
• ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศสายการบินไทย
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ อาทิ กิจกรรมของโรงแรมที่มีการเก็บเงิน อาหาร เครื่องดื่มพิเศษ
• ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่าอินเดีย (ออนไลน์)
- หนังสือเดินทาง มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
- รูปถ่ายสี ขนาด 3.5 ซม. X 4.5 ซม. พื้นหลังสีขาว จำนวน 1 รูป

ติดต่อ : ซัง / ไปร์ท โทร. 0 2212 8431 ต่อ 123, 124
จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 น. – 17.30 น.
Line ID: @chaitour / www.chaitour.co.th