สมัครรับข่าวสารจาก Chai Tour


    เที่ยวโอมาน ชมอัญมณีแห่งอาระเบีย

    โอมาน อัญมณีแห่งอาระเบียโอมาน

    วันเดินทาง : 21 – 26 มกราคม 2567

    ค่าบริการ

    • ผู้ใหญ่ (10-14 ท่าน) : 113,000.- บาท
    • ผู้ใหญ่ (15 ท่านขึ้นไป) : 105,500.- บาท
    • พักเดี่ยวเพิ่ม : 27,000.- บาท

    เมืองมัสกัต

    เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมเปอร์เซีย เลียบริมอ่าวโอมาน กับบ้านเรือนสีขาวสะอาดตา

    Jebel Shams

    อลังการกับความสวยงามของ Jebel Shams วิวแกรนด์แคนยอนแห่ง Arabia

    พักรีสอร์ทกลางทะเลทรายวาฮิบา สัมผัสการใช้ชีวิต ของชาวเบดูอิน ชนพื้นเมืองเผ่าดั้งเดิมของชาวอาหรับที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย

    DAY 01 : ศุกร์ที่ 21 มกราคม 2567 กรุงเทพฯ – มัสกัต

    06.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินโอมาน (ROW T)

    09.15 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ WY 818 (6.20 ชม. / Breakfast)

    12.35 น. ถึงเมืองมัสกัต (Muscat) ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

    13.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองมัสกัต (Muscat) เมืองหลวงของรัฐสุลต่านโอมาน (Sultanate of Oman)เริ่มเป็นที่จับตามองของนักท่องเที่ยว หลังมีการพัฒนาและปรับปรุงสถานที่ต่างๆ นับตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ไปจนถึงรีสอร์ทหรูเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

    อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

    ชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโอมาน (The National Museum of Oman) มีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นห้องต่างๆ 30 ห้อง อาทิ ห้อง ประวัติศาสตร์การเดินเรือ ห้องอาวุธห้องเหรียญ ห้องก่อนประวัติศาสตร์และ ยุคโบราณ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีศูนย์การศึกษาห้องประชุมที่สามารถจัดการบรรยายวิชาการได้ รวมทั้งมีโรงภาพยนตร์ที่มีเทคโนโลยี 3 มิติ การแสดงภาพยนตร์สารคดีที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งมากกว่าเดิม

    พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโอมาน

    เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย เก็บรักษาทรัพย์สมบัติอันสำคัญของชาติและใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้อนุชนรุ่นหลัง

    แวะถ่ายรูปกับ พระราชวังอัลอาลามพาเลซ (Al Alam Palace) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่าบนเขตพระราชวังดั้งเดิมอายุกว่า 200 ปี พระราชวังแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของสถาปัตยกรรมอิสลามสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1972 ที่ประทับอย่างเป็นทางการของสุลต่านแห่งโอมาน มักใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง คนสำคัญ เป็นอาคารที่โอ่โถงสง่างาม ด้วยกำแพงหินอ่อนขัดมัน ด้านหน้าพระราชวังประกอบด้วยเสาสีทองและสีฟ้าจำนวนสี่ต้น ตกแต่งด้วยซุ้มโค้งกระเบื้อง และงานแกะสลักที่วิจิตร

    อาหารค่ำที่โรงแรม

    ที่พัก : GRAND MILLENNIUM MUSCAT HOTEL (4*) หรือเทียบเท่า

    DAY 02 : เสาร์ที่ 22 มกราคม 2567 มัสกัต – ซูร์ – ราด อัล ฮาร์ด

    อาหารเช้าที่โรงแรม

    นำชม สุเหร่าประจำกรุงมัสกัต (Grand Mosque) สุเหร่าขนาดใหญ่ที่สุดในโอมาน มีความสวยงามและสำคัญต่อโอมานมาก (การแต่งกาย : สุภาพบุรุษ สวมกางเกงขายาว สุภาพสตรี สวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว และ ผ้าคลุมศีรษะ)

    สุเหร่าประจำกรุงมัสกัต

    ภายในมีพรมทอมือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาด 70X60 เมตร มีน้ำหนักถึง 21 ตัน ใช้ช่างฝีมือที่เป็นผู้หญิงในการถักทอถึง 600 คน และใช้เวลาถึง 4 ปี ในส่วนทางเดินทาง ที่เชื่อมต่อกันแต่ละห้องจะถูกประดับประดา ไปด้วยกระจกสีต่างๆ สวยงามมาก

    จากนั้นชม หลุมยุบบิมมาห์ (Bimmah Sinkhole) บ่อหินปูนที่มีน้ำสีเขียวมรกต มีความลึกกว่า 20 เมตร เกิดจากการ ยุบตัวของชั้นหินปูนกลายเป็นหลุม ชาวพื้นเมืองมีเรื่องเล่าขานว่าหลุมยุบนี้เกิดจากเศษเสี้ยวของพระจันทร์หล่นจากฟ้า
    นำท่านเดินทางสู่ Wadi Shab ภูมิประเทศบริเวณวาดิชาบเป็นแบบหุบผา มีถ้ำ และทะเลสาบน้ำจืด ให้ท่าน เก็บภาพความประทับใจ

    อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

    จากนั้นเดินทางสู่ เมืองซูร์ (Sur) เมืองท่าเก่าแก่ที่สำคัญอีกเมืองหนึ่ง ชาวบ้านมีวิถีชีวิตประกอบอาชีพประมงและความที่เป็นเมืองอยู่ติดทะเลและเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ซูร์ก็เลยเป็นเหมือนเมืองหลวงของการต่อเรือ (Dhow) ของโอมาน

    ชม อู่ต่อเรือ (Dhow Factory) ที่นี่ชาวบ้านทำการต่อเรือกันเป็นกิจจะลักษณะ แต่ละลำใหญ่สามารถทำเป็นเรือทัวร์ได้ บางลำส่งออกไปขายต่างประเทศ ราคาคิดเป็นเงินไทยก็อาจจะอยู่ในราว 5 ล้านบาท

    นำท่านสู่ ชายหาด Ras Al Hadd ตั้งอยู่ในเขต Al Sharqiya บนชายฝั่งตะวันออกของโอมาน

    ที่พัก : TURTLE BEACH RESORT RAS AL HADD (3*) หรือเทียบเท่า

    19.30 น. อาหารค่ำที่ Turtle beach resort ras al hadd

    21.00 น. หลังอาหารค่ำ นำท่านชม เต่าตนุ วางไข่บนชายหาดในเวลากลางคืน เต่าจะขึ้นฝั่งขุดหลุมทรายวางไข่ แล้วกลบอย่างดีก่อนกลับลงสู่ทะเล โดยที่โอมานมีเต่าตนุ ถึง 5 ใน 7 จากสายพันธุ์ ทั่วโลกมาวางไข่

    เต่าตนุ

    เป็นเต่าทะเลที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีน้ำหนักมากเมื่อโตเต็มที่ โดยมีความยาวตั้งแต่หัวจรด หางประมาณ 1 เมตร น้ำหนักราว 130 กิโลกรัม อาศัยอยู่ในน้ำ มีกระดูกสันหลัง หายใจด้วยปอดและมีหัวใจสามห้องเหมือนสัตว์เลื้อยคลานทั่วไป

    DAY 03 : อาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2567 ซูร์ – ทะเลทรายวาฮิบา

    อาหารเช้าที่โรงแรม

    **เปลี่ยนพาหนะเป็นรถ LAND CRUISER คันละ 3 ท่านตลอดการเดินทาง**

    เดินทางสู่ Wadi Bani Khalid คนโอมาน เรียกโอเอซิส (Oasis) ว่า ” Wadi ” โอเอซิสมีอยู่หลายแบบหลายขนาด แต่โดยทั่วไปนั้นจะมีลักษณะพื้นฐานที่เหมือนกันคือ จะเป็นแอ่งน้ำอันโดดเดี่ยวภายในทะเลทรายและล้อมรอบไปด้วยพืชพันธุ์ไม้ต่างๆ หากโอเอซิสแห่งใดที่มีขนาดใหญ่มากพอ ผู้คนก็จะอพยพเข้ามาอยู่มากจนกลายเป็นเมืองขึ้นมา กลางทะเลทราย

    อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

    จากนั้นเดินทางต่อสู่เมือง Ash Sharqiyah เพื่อเข้าสู่ดินแดนแห่งทะเลทรายชาร์กียาหรือทะเลทรายวาฮิบา (Sharqiyah Sands or Wahiba Sands) เป็นทะเลทรายขนาดใหญ่มีเนื้อที่ 10,000 ตร.กม. จากเหนือจรดใต้ยาวประมาณ 180 กม. จากตะวันออกถึงตะวันตกความกว้างเฉลี่ย 80 กม. พลาดไม่ได้กับการชมพระอาทิตย์อัสดงลับเหลี่ยมขอบฟ้ากลางทะเลทราย

    อาหารค่ำที่รีสอร์ท

    ที่พัก : DESERT NIGHT CAMP (Deluxe Villa Room) หรือเทียบเท่า

    ทะเลทรายวาฮิบา

    เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเบดูอิน (Bedouin) ชนพื้นเมืองเผ่าดั้งเดิมของชาวอาหรับที่ปรากฏหลักฐานว่าชนเผ่าชาวเบดูอินได้อพยพเข้ามาอาศัยในดินแดนแถบนี้ตั้งแต่ 5,000 ปีที่แล้ว

    DAY 04 : จันทร์ที่ 24 มกราคม 2567 ทะเลทรายวาฮิบา – จาบริน

    อาหารเช้าที่แคมป์

    นำท่านมุ่งหน้าไปยัง หมู่บ้านเก่าแก่อิบรา (Ibra old village) เป็นเมืองเล็ก ๆ ท่ามกลางภูเขาและทะเลทราย มีประชากรประมาณ 25,000 คน

    จากนั้นไปอีกหนึ่งหมู่บ้านคือ หมู่เบอร์คัท อัล มาอุซ (Birkat Al Mauz) มองจากบนจุดชมวิวจะเห็นว่านอกจากเป็นต้นปาล์มที่มีเป็นจำนวนมากแล้วยังมีหมู่บ้านเก่าแก่ตั้งเรียงรายอยู่ ปัจจุบันหลายแห่งเกือบจะเป็นหมู่บ้านร้างผู้คนส่วนใหญ่ย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่บางหมู่บ้านทางการพยายามอนุรักษ์เอาไว้ ดูจากการก่อสร้างจะเห็นว่าเขาใช้พวกโคลนมาสร้างบ้าน จึงง่ายต่อการทรุดและพังทลายลงมา

    อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

    นำท่านเดินทางสู่ Jebel Akhdar เป็นเทือกเขาที่อยู่ใน Western Hajar

    อาหารค่ำที่โรงแรม

    ที่พัก : ANANTARA AL JABAL AL AKHDAR RESORT (Premier Canyon View Room) (5*) หรือเทียบเท่า

    Jebel Akhdar

    ชื่อนี้หมายถึง Green Mountain ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางผ่านภูเขา และป่าไม้ ระหว่างทางมีหมู่บ้านเล็กๆ และสวน บางหมู่บ้านไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เคยเป็นชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง และมีชื่อเสียงในด้านการปลูกผลไม้ถั่ว ผลทับทิมลูกพีชและวอลนัท

    DAY 05 : อังคารที่ 25 มกราคม 2567 นิซวา – มัสกัต

    อาหารเช้าที่โรงแรม

    เดินทางสู่ เมืองนิซวา (Nizwa) ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ห่างจากเมืองมัสกัตประมาณ 140 กิโลเมตร (2 ชั่วโมง) เป็นเมืองประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณของตะวันออกกลาง ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอมาน มีป้อมปราสาทโบราณขนาดใหญ่ของเมืองถึง 2 ป้อม คือป้อมนิซวา (Nizwa Fort) และป้อมบาห์ลา (Bahla Fort)

    ชม ป้อมนิซวา (Nizwa Fort) ที่สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 ในยุคของอิหม่ามสุลต่านบินซาอิฟ โดยใช้เวลา ในการก่อสร้างกว่า 12 ปี เป็นป้อมที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรอาหรับมีหอคอยทรงกลมขนาดมหึมาที่มีฐานลึกถึง 30 เมตร เพื่อต้านทานแรงสะเทือนจากปืนใหญ่ และมีแท่นปืนใหญ่กว่า 400 แท่น เมื่อท่านขึ้นไปที่ยอดของป้อมแล้วจะสามารถมองเห็นมัสยิดโดมสีน้ำเงินที่โดดเด่น เมื่อมองไกลออกไปก็จะเห็นภูเขาบัลเชมส์ ที่มีความสูงกว่า 3,000 เมตร นับว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดในคาบสมุทรอาหรับตะวันออก

    อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองมัสกัต ชม ย่านการค้าพื้น Muttrah Souq ซึ่งพลุกพล่านด้วยชีวิตชีวา อบอวลด้วยกลิ่นกำยานและไม้จันทน์ และลูกเดท Date หรือลูกอินทผาลัม ขณะเดินดูของไปตามซอกแคบๆ ทำให้รู้สึกได้ถึงโอมานสมัยก่อน ให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองมัสกัต

    อาหารค่ำที่ภัตตาคารไทย

    22.05 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ WY 817 (5.40 ชม. / Dinner)

    DAY 06 : พุธที่ 26 มกราคม 2567 กรุงเทพฯ

    06.45 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

    เดินทางกลับถึงบ้านด้วยความสนุกสนานและประทับใจยิ่ง

    หมายเหตุ : กำหนดการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างตามเหตุการณ์และความเหมาะสม

    อัตราค่าบริการ

    • ผู้ใหญ่ (ผู้เดินทาง 10-14 ท่าน) : 113,000.- บาท
    • ผู้ใหญ่ (ผู้เดินทาง 15 ท่านขึ้นไป) : 105,500.– บาท
    • พักเดี่ยวเพิ่ม : 27,000.- บาท

    หมายเหตุ ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศสายการบินโอมาน (WY)
    21 ม.ค. 66 : WY818 BKK – MCT 09.15-12.25
    25 ม.ค. 66 : WY817 MCT – BKK 22.00-06.45+1
    ชั้นทัศนาจร : เริ่มต้นที่ 35,000.- บาท / ชั้นธุรกิจ เริ่มต้นที่ 111,500.- บาท

    อัตรานี้รวม

    1. ที่พักตามรายการ (พักห้องละ 2 ท่าน) หรือเทียบเท่า
    2. นำเที่ยวรถโดย LAND CRUISER คันละ 3 ท่าน พร้อมค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่  
    3. อาหารจัดเลี้ยง ตามรายการ
    4. ค่าวีซ่าโอมาน (On Arrival)
    5. อัตรานี้รวมค่าทิปพนักงานขับรถ
    6. ค่าภาษีสนามบิน ค่าธรรมเนียมวีซ่า และค่าขนสัมภาระท่านละ 1 ชิ้น (น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม)
    7. ประกันอุบัติเหตุการเดินทางในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท
    8. มัคคุเทศก์จากชัยทัวร์ดูแลท่านตลอดการเดินทาง

    อัตรานี้ไม่รวม

    • ตั๋วเครื่องบินตามรายการ สายการบิน  OMAN AIR ชั้นทัศนาจร
    • ค่าหนังสือเดินทาง
    • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง ๆ อาทิ  ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่มพิเศษ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ

    สำรองการเดินทาง

    มัดจำท่านละ 20,000 บาทพร้อมส่งสำเนาหนังสือเดินทาง (มีอายุใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือน) เมื่อจองชำระส่วนที่เหลือก่อนเดินทาง15 วันกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้ ทางบริษัทฯสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง

    เอกสารที่ใช้ยื่นวีซ่า

    1. หนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุการใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
    2. รูปถ่ายสี ฉากหลังขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
    3. สำเนาทะเบียนบ้าน
    4. ชื่อ และที่อยู่ของสถานที่ทำงานสำหรับกรอกข้อมูลใน Application Form

    ติดต่อ : ซัง / ไปร์ท โทร. 0 2212 8431 ต่อ 123, 124

    จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 น. – 17.30 น.
    Line ID: @chaitour / www.chaitour.co.th