สมัครรับข่าวสารจาก Chai Tour


    สู่โลกกว้าง

    มีนาคม 2567

    เจาะลึกโปรตุเกส

    19 - 29 มีนาคม 2567

    เดินทาง : 19-29 มีนาคม 2567 Lisbon เมืองหลวงของดินแดนสุดขอบทวีปยุโรป Sintra สุดยอดความงามของพระราชวังพีน่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของประเทศ ทาร์ตไข่ ลองลิ้มชิมรส แสนอร่อย จากต้นตำรับ Obidos เพชรเม็ดงามบนเนินเขาหินปูน เหล้าเชอรี่ขึ้นชื่อ Porto สวรรค์นักดื่ม แหล่งพอร์ตไวน์ ล่องแม่น้ำดูว์โร อันแสนโรแมนติก พลาดไม่ได้!! เหล้าเชอรี่กับถ้วยช็อคโกแลต เลือกชิมและเลือกซื้อเป็นของฝาก DAY 01 : อังคารที่ 19 มีนาคม 2567 กรุงเทพฯ 22.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทย (ROW D) เจ้าหน้าที่ชัยทัวร์คอยอำนวยความสะดวก DAY 02 : พุธที่ 20 มีนาคม 2567 ดูไบ – ลิสบอน 01.05 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน EK385 (6.25 ชม./Breakfast) 05.00 น. ถึงสนามบินกรุงดูไบ พักเปลี่ยนอิริยาบถและเปลี่ยนเครื่อง 07.25 น. ออกเดินทางต่อโดยเที่ยวบิน EK191 (8.25 ชม./Lunch) 12.00 น. ถึงสนามบินกรุงลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของสาธารณรัฐโปรตุเกส นำท่านชมทัศนียภาพของ กรุงลิสบอน (Lisbon) เริ่มจากจตุรัสรอสซิโอ ใจกลางเมือง ซึ่งถูกทำลายเนื่องจากแผ่นดินไหวจนหมดสิ้นเมื่อปี ค.ศ.1755 ในปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่อย่างสมบูรณ์ นำท่านชม มหาวิหารเจอโรนิโมส (Jeronimos Monastery) อันงดงามด้วยศิลปะผสมผสานที่เรียกว่า มานูเอลไลน์ (Manueline) โดยการแกะสลักหินด้วยลวดลายที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ รวมทั้งยังเป็นสถานที่ เก็บศพของวาสโก ดา กามา (Vasco Da Gama) นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ พลาดไม่ได้กับการลองลิ้มชิมรส ทาร์ตไข่ แสนอร่อยจากต้นตำรับ จากนั้นถ่ายภาพกับ อนุสรณ์นักเดินเรือ (Discoveries Monument) อนุสรณ์นักเดินเรือ สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในวาระครบรอบ 500 ปี ที่ วาสโก ดา กามา ค้นพบโลกใหม่ และ หอคอยบาเล็ง (Belem Tower) สัญลักษณ์ในยุคสมัยแห่งการแสวงหาอำนาจทางทะเลของโปรตุเกส จากนั้นนำท่านเปลี่ยนพาหนะท่องเที่ยวกรุงลิสบอนโดย รถรางไฟฟ้า (Lisbon Tram) เที่ยวย่านเมืองเก่า เริ่มจากจัตุรัสใจกลางกรุง (Figueira Plaza) สู่มหาวิหารลิสบอนที่เก่าแก่ที่สุด แวะถ่ายภาพ ณ จุดชมวิว Portas do Sol อันใกล้กับปราสาทเซนต์จอร์จ ก่อนเดินทางผ่านเส้นทางสายประวัติศาสตร์ในเขตอัลฟาม่า (Alfama) อิสระเดินเล่นช้อปปิ้งย่านเชียดู (Chiado) แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมือง และเป็นแหล่งนัดพบของศิลปิน นักเขียน ให้ท่านเพลินเพลินกับบรรยากาศ อาหารค่ำที่โรงแรม ที่พัก PORTOBAY LIBERDADE หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืน) DAY 03 : พฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2567 ซินตร้า – แหลมโรก้า – ลิสบอน อาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองซินตร้า (Sintra) อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงาม ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก จากนั้นชม พระราชวังพีน่า (Pena Palace) ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของเมืองซินตร้า พระราชวังแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ในปีค.ศ.1995 นอกจากพระราชวังแล้วยังมีสวน อันกว้างใหญ่ถึง 270 เฮกตาร์ มองแต่ไกลเหมือนปราสาทในเทพนิยายที่เจ้าหญิงรอเจ้าชายขี่ม้าขาวมาเยือนปราสาทเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกสด้วย อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร พระราชวังพีน่า สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์พระองค์ที่ 13 ของโปรตุเกส คือพระเจ้าจอห์นที่ 2 สร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความรักของพระองค์ ต่อราชินี Eleanor of Viseu เดินทางสู่ […]

    เทศกาลซากุระบานที่ ปูซาน – โซล

    27 มีนาคม - 1 เมษายน 2567

    เดินทาง : 27 มี.ค.-1 เม.ย. 2567 Jinhae Gunhangje Festival เป็นเทศกาลชมดอกซากุระที่ดังและสวยที่สุดในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ซึ่งจะเต็มไปด้วย ดอกซากุระสายพันธุ์เกาหลี ที่บานสะพรั่งอยู่ทั่วเมืองหลายแสนต้น โดยช่วงเวลาที่จัดงาน จะมีกิจกรรมมากมาย Sky Capsule Haeundae Blue Line Park รถไฟไซส์มินิ สีสันสดใส ที่วิ่งอยู่บนรางรถไฟริมทะเลของปูซาน วิ่งเรียบชายหาด Gyeongbokgung Palace เป็นทั้งสัญญาลักษณ์และแหล่งท่องเที่ยว ยอดฮิตของกรุงโซล พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน DAY 01 : พุธที่ 27 มีนาคม 2567 กรุงเทพฯ – ปูซาน 20.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบิน Korean Air แถว M ประตูที่ 6 23.15 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน Korean Air เที่ยวบินที่ KE 652เจ้าหน้าที่ชัยทัวร์อำนวยความสะดวกให้กับท่าน DAY 02 : พฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 ปูซาน – เทศกาลดอกซากุระบาน 06.40 น. ถึงสนามบินนานาชาติอินชอน แวะเปลี่ยนเครื่อง 08.25 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน Korean Air เที่ยวบินที่ KE 1407 09.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮ (Gimhae International Airport) เมืองปูซาน (Busan) สาธารณรัฐเกาหลีใต้ เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุด และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศรองจากโซล ผ่านพิธีขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม.) ชม เทศกาลดอกซากุระบานจินแฮ (Jinhae Gunhangje Festival) เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี  ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดก็คือ คลองยอชวาชอน ซึ่งจะมีต้นซากุระเรียงรายเป็นอุโมงค์สีชมพูบานสะพรั่งสวยงาม และขนาบข้างไปด้วยดอกคาโนล่า ซึ่งจะบานพร้อม ๆ กับช่วงที่ดอกซากุระบานด้วย อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร เมนู Naksaesam เทศกาลดอกซากุระบานจินแฮ เป็นเทศกาลชมดอกซากุระที่ดังและสวยที่สุดในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ซึ่งจะเต็มไปด้วย ดอกซากุระสายพันธุ์เกาหลี ที่บานสะพรั่งอยู่ทั่วเมืองหลายแสนต้น โดยช่วงเวลาที่จัดงาน จะมีกิจกรรมมากมาย ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน ชม หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Gamcheon Culture Village) เป็นหมู่บ้านที่เกิดจากการตั้งรกรากย้ายถิ่นฐานของชาวเกาหลี ซึ่งหนีภัยจากสงครามเกาหลีในระหว่างปี ค.ศ.1950 -1953 และอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบันด้วยลักษณะการสร้างบ้านเรือนผ่านถนนทุกสายที่เรียงรายไปตามแนวภูเขาจนเป็นขั้นบันไดที่เป็นระเบียบและ ดูสวยงามแปลกตาไปกับสีสันที่สลับไปมาของตัวบ้านและหลังคาจึงกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของหมู่บ้านแห่งนี้จนได้รับฉายาว่า “มาชูปิกชูแห่งปูซาน” (Machu Picchu Of Busan) ในปี ค.ศ.2015 นอกเหนือไปจากความสวยงามแปลกตาของหมู่บ้านแห่งนี้แล้วภายในหมู่บ้านยังมีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเดินท่องเที่ยวภายในหมู่บ้านได้แก่พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก, ร้านศิลปะ, ร้านขายของที่ระลึก, คาเฟ่, ร้านกาแฟ, ร้านอาหารหลากหลาย และอื่น ๆ อีกมากมาย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ซงโด สกายวอล์ค (Songdo Skywalk) ถือเป็นจุดชมวิวที่เปิดใหม่ในปูซาน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะเป็นที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าชมวิวเมืองและทะเลได้จากมุม ที่ไม่เคยมีมาก่อนในปูซาน นำท่านขึ้นกระเช้า Crystal Cable Car เป็นพื้นกระจกใส สามารถมองทะลุ ได้รอบทิศทาง ทำให้มองเห็นวิวได้ 360 องศา สถานีปลายทางด้านบนเป็นจุดชมวิวรอบๆดาดฟ้าแห่งนี้ก็มีงานศิลปะไว้ให้ทุกท่านถ่ายรูปได้หลายจุด นำท่านเดินทางไปเช็คอินที่ ชายหาดควังอันลี (Gwangalli Beach) ชายหาดรูปพระจันทร์ครึ่งดวง อยู่ที่เมืองปูซาน (Busan) มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า ให้ได้ช้อปปิ้งมากมาย รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ โรงหนัง แกลลอรี่ เป็นต้น อาหารค่ำที่ภัตตาคาร เมนู Seafood Steam Bowl พักที่ Paradise Haeundae (Sea View Room) หรือเทียบเท่า […]

    แสงเหนือ เซนญา โลโฟเทน

    27 มีนาคม - 4 เมษายน 2567

    เดินทาง : 27 มี.ค. – 4 เม.ย. 67 (9 วัน) หมู่เกาะโลโฟเทนและเกาะเซนญา เป็นหนึ่งในดินแดนที่ชาวไวกิ้งอาศัยอยู่ในอดีต และเป็นแหล่งประมงสำคัญของนอร์เวย์ จุดเด่นของหมู่เกาะแห่งนี้คือผืนน้ำ ผืนฟ้า ภูเขาสูงสลับซับซ้อนสุดแสนสวยงาม และเมืองที่เงียบสงบอิงแอบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศงดงามชวนฝัน พร้อมทั้งชม แสงเหนือ (Northern Light) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสุดอลังการและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก Day 01 : พุธที่ 27 มีนาคม 2567 กรุงเทพฯ 21.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทย (Business Row A / Economy Row H/J) เจ้าหน้าที่ชัยทัวร์คอยอำนวยความสะดวก 23.40 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ TG 920 (12.15 ชม.) Day 02 : พฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 แฟรงค์เฟิร์ท – ทรอมโซ 05.55 น. ถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ท ผ่านพิธีการตรวจตนเข้าเมือง พักเปลี่ยนอิริยาบถและเปลี่ยนเครื่อง 10.10 น. ออกเดินทางโดยสายการบินลุฟธันซา เที่ยวบินที่ LH 870 (3.30 ชม.) 13.40 น. ถึงสนามบินเมืองทรอมโซ (Tromso) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตอาร์กติกเซอร์เคิลอีกด้วย ผ่านด่านศุลกากร ชมพิพิธภัณฑ์ขั้วโลก (Polar Museum) อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในอาคารไม้สีแดง มีลักษณะคล้ายๆ กับโกดังเก็บของตั้งอยู่บนท่าเทียบเรือ เป็นอีกหนึ่งอาคารแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ 1830 ภายในมี การจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาค การสำรวจขั้วโลก รวมไปถึงพื้นที่ในแถบอาร์กติก นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในเขตอาร์กติก ซึ่งได้แก่ หมีขั้วโลก และสิงโตทะเล จากนั้นนำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์ทรอมโซ (Fjellheisen) ชมวิวของเมืองแบบ 360 องศา ซึ่งพลาดไม่ได้เลยเมื่อมาถึงทรอมโซ จุดชมวิวเมืองยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) ที่สูง 1,380 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง จุดชมวิวเมืองยอดเขาสโตรสไตเนิน ที่สูง 1,380 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาสูงที่มีจุดชมวิวที่สามารถ มองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียง ที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกัน โดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็งกลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ อาหารค่ำที่ภัตตาคาร Fiskekompaniet ที่พัก RADISSON BLU HOTEL TROMSO (4*) หรือเทียบเท่า Day 03 : ศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 ทรอมโซ – เซนญา อาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เกาะเซนญา (Senja Island) ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์ ด้วยเรือเฟอร์รี่ 08.45 น. นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากจากท่าเรือเบรนส์โฮลเมน (Brensholmen) 09.30 น. ถึงท่าเรือโบทน์แฮนม์ (Botnhanm) มุ่งสู่ จุดชมวิวเมฟยอร์ดโบทน์ (Mefjordbotn) ของเส้นทางธรรมชาติอันรายล้อมไปด้วยขุนเขา กับฟยอร์ด เดินทางต่อไป ตุงเกอเนสเซท (Tungeneset) อีกหนึ่งจุดชมวิวที่เป็นทางเดินเรียบชายทะเลพร้อมวิวของเทือกเขาโอคชอร์นัน (Okshornan) อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านสู่ เบิร์กโบทน์ (Bergsbotn) จุดชมวิวที่เป็นสะพานไม้ยาว 44 เมตร รายล้อมด้วยขุนเขาและสามารถชมวิวของเบิร์กฟยอร์ด (Bergsfjord) ที่อยู่เบื้องล่างแบบพาโนรามา จากนั้นแวะชม หมู่บ้านชาวประมงกริลล์ฟยอร์ด (Gryllefjord Fishing Village) ซึ่งมีประชากรอยู่ราว ๆ 400 คน ให้ท่านได้เดินเล่นชมบ้านเรือนและความสวยงามของพื้นที่เรียบชายฝั่งทะเลและฟยอร์ด เดินทางต่อสู่ อ่าวแฮมน์ไอเซนญา (Hamn I Senja) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาะเซนญาและเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือนเพื่อชมความงามของธรรมชาติและแสงเหนือ อาหารค่ำที่โรงแรม เกาะเซนญา เกาะแห่งความสวยงามตระการตรา กับบรรยากาศธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทัศนียภาพของฟยอร์ดและเทือกเขาที่สวยงาม ซึ่งเกาะเซนญานี้เองมักถูกเรียกว่า “ลิตเติลนอร์เวย์” เนื่องจากมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์ 20.00 น. เปิดประสบการณ์ชมแสงเหนือซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเฉพาะดินแดนที่อยู่เหนือเส้น […]