ค่าบริการ
ท่านละ 15,000.- บาท
พักเดี่ยวเพิ่ม 2,300.- บาท
นั่งรถไฟลอดผ่านอุโมงค์ขุนตานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ทริปนี้ย้อนวันวานชวนไปต้องมนต์เสน่ห์ของลําปางกันอีกครั้ง ย้อนวันวานนั่งรถไฟลอดผ่านอุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์รถไฟที่ยาว ที่สุดในประเทศในขณะนี้
- นั่งรถม้าชมบรรยากาศเมืองลําปาง
- ชมสะพานทาชมภูแต่เป็นสีขาว ฟังเรื่องราวพร้อมโพสท์ท่า ถ่ายรูปแบบสวยทุกมุม
- ท้าให้ลอง ไอศครีมกะทิสดป่าป้อม หวาน หอม ยืนหนึ่ง เรื่องครองความอร่อยอย่างยาวนานร่วม 30 ปี
01. ศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 กรุงเทพฯ – ลำปาง
06.00 น. พร้อมกันที่หน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ริมถนนอังรีดูนังต์ เจ้าหน้าที่ชัยทัวร์คอยให้การต้อนรับและอํานวยความสะดวก
06.30 น. ออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศ สู่จังหวัดลําปาง
อาหารเช้า บริการอาหารกล่อง เครื่องดื่มชา กาแฟ ผลไม้ตามฤดูกาล
จากนั้นออกเดินทางต่อ ทักทายสนทนาตามประสาคนกันเอง
อาหารกลางวันที่ ร้านชิดชล
เดินทางต่อสู่จังหวัดลําปาง ชม พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย เป็นธนาคารแห่งแรกในจังหวัดลําปาง และเป็นธนาคาร
แบงค์สยามกัมมาจล ทุนจํากัด ก่อตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น สถาปัตยกรรมโคโลเนียล สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้คัดเลือกให้เป็นอาคารอนุรักษ์ ดีเด่น ประจําปี พ.ศ.2540 ซึ่งขณะนั้น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ท่านดํารงตําแหน่ง ผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลําปาง ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเงิน การธนาคาร จําลองห้องทําการธนาคาร ห้องพักผู้จัดการในอดีต เป็นต้น จากนั้นนําท่าน นั่งรถม้าชมบรรยากาศเมืองลําปาง

ชม วัดเจดีย์ซาว จัดว่าเป็นความงดงามของศิลปะแบบพม่าผสมศิลปะล้านนาโดยจะมีองค์เจดีย์องค์ใหญ่สุดอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเจดีย์อีก 19 องค์ รวมกันทั้งหมดกว่า 20 องค์ ถือว่าปูชนียสถานที่สําคัญของลําปาง เพราะสร้าง มาตั้งแต่โบราณ มีทั้งประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุต่างๆ มากมาย ไม่ว่า จะเป็นหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์ คาดว่า
วัดนี้น่าจะสร้างมานานนับพันปี
ชม สุสานไตรลักษณ์ เป็นสถานที่จําพรรษาปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก ภายในมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้ได้ไปกราบนมัสการ ทําบุญ และชมกัน เริ่มตั้งแต่บริเวณด้านหน้า ประดิษฐานของรูปเหมือน หลวงพ่อเกษม เขมโก องค์ใหญ่ ศาลาทรงไทยภายในประดิษฐานสรีรสังขารหลวงพ่อ มีผ้าไตรและสังฆทาน แบบจัดเองให้เช่าบูชาซึ่งท่านสามารถซื้อเข้าไปถวายพระสงฆ์ได้ตามอัธยาศัย ใกล้กันมีกุฏิของหลวงพ่อ ซึ่งมี ลักษณะเป็นกุฏิไม้ขนาดเล็ก เป็นต้น
อาหารค่ําที่ ร้านแกงหอม / ริเวอร์ไซด์
พักที่ โรงแรมทรีธารา (พัก 2 คืน)



02. เสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ลำปาง
อาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่อาเภอห้างฉัตร นาท่านสักการะ ศาลเจ้าพ่อขุนตาน (พญาเบิก) เจ้าพ่อขุนตานมีพระนามว่า“พญาเบิก” เป็นเจ้าเมืองเขลางค์นคร ได้สร้างเมืองต้านศึกขึ้นในบริเวณพื้นที่แห่งหนึ่งเขตอาเภอห้างฉัตร ใกล้ทิวเขาใหญ่ ต่อมาให้มีนามว่า “เมืองเวียงต้าน” ส่วนทิวเขาสูงยาวเหยียดคั่นระหว่างลาปางและลาพูน ซึ่งเป็นแนวทางวางกาลังไพร่พล เพื่อที่จะตีสกัดกองทัพพญาเม็งราย ต่อมาเรียกว่า “ดอยขุนต้าน” และเปลี่ยนเป็น ดอยขุนตานในปัจจุบัน
จากนั้นนาชม สะพานทาชมภู เรียกได้ว่าเป็นสะพานสีขาวแห่งประวัติศาสตร์ ใครได้แวะเวียนมาเที่ยวจะต้องตามมาเช็คอิน สะพานตั้งอยู่ระหว่างสถานีขุนตานกับสถานีทาชมภู เป็นสะพานที่มีทรงโค้งสีขาวสถาปัตยกรรมแบบฝั่งตะวันตก ซึ่งก่อสร้างต่อจากอุโมงค์รถไฟขุนตาน ที่เป็นเส้นทางสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพื่อให้รถไฟ ข้ามผ่านลาน้าแม่ทานั่นเอง
นาชม อุทยานแห่งชาติขุนตาล เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในอาเภอแม่ทา จังหวัดลาพูน และอาเภอห้างฉัตร จังหวัดลาปาง อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของอุโมงค์ขุนตาน วัดดอยขุนตาล ฯลฯ
11.02 น. ขึ้นรถไฟที่ สถานีขุนตาน เดินทางผ่านอุโมงค์ขุนตาน หรือ ถ้าขุนตาน ซึ่งระยะทางความยาว 1.3 กม. ปากอุโมงค์ก่อด้วยอิฐสีแดงและมีตราครุฑสีแดงบนพื้นเหลืองประดิษฐานอยู่เหนือปากอุโมงค์
11.22 น. ถึงสถานีแม่ตานน้อย นาท่านลงจากรถไฟเปลี่ยนพาหนะเป็นรถโค้ชปรับอาอาศ (คันเดิม)
อาหารกลางวันที่ บ้านพระยาสุเรนทร์ / แสร้งว่า (ไอศกรีมกระทิสดป้าป้อม สดชื่นอร่อยยืนหนึ่งที่สุดของประเทศ)
นำท่านชมและสักการะ พระธาตุลาปางหลวง เป็นพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 20 ตามตานานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ พระธาตุลาปางหลวงยังเป็นพระธาตุประจาปีเกิดของคนปีฉลูอีกด้วย ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศา และพระอัฐิธาตุ จากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง ความพิเศษของพระธาตุ คือเงาพระเจดีย์ที่สะท้อนลงบนผืนผ้า ในวิหารเล็กด้านหลังจะมีลักษณะเจดีย์กลับหัว มีสีสันเหมือนเจดีย์หลัก ซึ่งเป็นอันซีนของที่นี่เลยนะ



จากนั้นนาท่านชม วัดปงสนุก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเจ้าอนันตยศ ซึ่งเป็นราชบุตรของพระนางจามเทวี แห่งหริภุญไชย มีตานานกล่าวไว้ว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ.2364 เมืองลาปางและเมืองเชียงใหม่ยกทัพเข้าตี เมืองเชียงแสน แต่เมื่อไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งได้ ชาวเมืองเหล่านั้นจึงถูกต้อนมายังฝั่งเวียงเหนือของนครลาปาง โดยหนึ่งในกลุ่มชนนั้นก็มีชาวปงสนุกรวมอยู่ด้วย และขณะเดียวกันนั้นชาวเมืองพะเยาก็ได้อพยพมายังฝั่งเวียงเหนือเพื่ออาศัยอยู่เช่นเดียวกัน ต่อมาเมื่อบ้านเมืองสงบชาวพะเยาก็ย้ายกลับบ้านเกิดเมืองนอนของตน เหลือไว้แต่เพียงชาวปงสนุกที่ยังคงอยู่ โบราณสถานสาคัญภายในวัด ได้แก่ วิหารพระเจ้าพันองค์ ที่ได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก้เมื่อปี พ.ศ.2551 สร้างด้วยไม้เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของประเทศ
แดดร่มๆ ไปจับจ่ายกันที่ กาดกองต้า ถนนคนเดินเมืองลาปาง เป็นย่านตลาดเก่าตั้งอยู่ขนานกับลาน้าวัง ในซอยตลาดจีนริมน้า มีอาคารโบราณอายุเกือบร้อยปี ในอดีตเคยเป็นตลาดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากตั้งแต่ สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากเมืองลาปางนั้นเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าของภาคเหนือ ปัจจุบันจะเปิดให้บริการเฉพาะในช่วงเย็นของวันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น
อาหารค่าที่ ข้าวต้มอร่อยบาทเดียว
03. อำทิตย์ที่ 17 กันยำยน 2566 ลำปำง – พิษณุโลก
อาหารเช้าที่โรงแรม
นาท่านตะลุยชิมร้านอร่อยลาปาง บะหมี่โกจือ / ข้าวซอยอิสลาม จากนั้นเดินทางสู่จังหวัดพิษณุโลก
อาหารกลางวันที่ ขนมจีมก้ามปู + ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา
นาชม พิพิธภัณฑ์บ้านจ่าทวี เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้าน ซึ่งเป็นเครื่องมือทามาหากินของชาวบ้าน ในอดีต ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ จนถึงชิ้นใหญ่ อาทิ เครื่องจักสาน เครื่องปั้นดินเผา เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องมื่อเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพ เช่น เครื่องวิดน้าด้วยมือ เครื่องสีข้าว เครื่องมือดักจับสัตว์ เป็นต้น รวมกันแล้วนับหมื่นชิ้น จนได้รับการยอมรับว่าเป็นขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาไทย และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ประเภทหน่วยงานส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว เมื่อ พ.ศ.2541 จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นาท่านสักการะ พระพุทธชินราช ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มี พุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจาลองกันมากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
จากนั้นนาท่าน นั่งรถรางชมบรรยากาศและสถานที่สาคัญโดยรอบของเมืองพิษณุโลก ท่านจะได้สัมผัสถึง ความเจริญในอดีต วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองสองแคว สภาพอาคารบ้านเรือน ผังเมือง ไปจนถึงสถานที่สาคัญอย่างวัดสวย พระราชวัง สถานีรถไฟ กาแพงเมืองพิษณุโลก ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฯลฯ
อาหารค่าที่โรงแรม
พักที่ โรงแรมชินะปุระ ฮิสตอริค บูทิค พิษณุโลก
04. จันทร์ที่ 18 กันยำยน 2566 พิษณุโลก – พิจิตร – กรุงเทพฯ
นาชม วัดจุฬามณี เป็นโบราณสถานที่มีมาก่อนสมัยสุโขทัย เคยเป็นที่ตั้งของเมืองสองแควเก่า ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า “สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถทรงสร้างพระวิหารและเสด็จออกผนวชที่วัดนี้ เมื่อ พ.ศ. 2007”
ชมความสวยงามกันที่ พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร ผ้าทอไทย ถือเป็นมรดกทางภูมิปัญญาของชาวไทย ที่นา “ฝ้าย” ผลผลิตของประเทศมาผลิตเป็นผ้าทอมือลวดลายต่างๆ เป็นสิ่งที่สะท้อนความมีเสน่ห์ความมีเอกลักษณ์ที่มีการถ่ายทอดภูมิปัญญา วิถีชีวิตและแนวคิดต่าง ๆ สื่อความหมายลงบนผืนผ้า แต่กว่าที่จะมาเป็นผืนผ้าแต่ละผืน จุดเริ่มต้นของกระบวนการต่างๆ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มองเห็นถึงความสาคัญของการนาเสนอ แหล่งความรู้ที่สอดคล้องกับวิวัฒนาการในการดารงชีวิตของมนุษย์กว่าจะมาเป็นผืนผ้า
จากนั้นเดินทางสู่จังหวัดพิจิตร
ชม บึงสีไฟ แหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมือง ภายในมีรูปปั้นพระยาชาละวัน จระเข้ตัวใหญ่ตามตานานเรื่องไกรทอง ตั้งโดดเด่นสง่าดูน่าเกรงขาม
ชม อุทยานเมืองเก่าพิจิตร ซึ่งภายในมีสถานที่สาคัญๆ เช่น ถ้าชาละวัน จะเป็นลักษณะของช่องที่ขุดลึกลงไป ในดิน เกาะศรีมาลา เป็นสถานที่ที่เป็นมูลดินมารวมกันลักษณะคล้ายกับเกาะเล็กๆ
ชม วัดมหาธาตุ โบราณสถานที่ขุดพบศิลปะโบราณ เครื่องปั้นดินเผา และพระพุทธรูปสมัยต่างๆ โดยจะมีพระธาตุเจดีย์ เจดีย์ทรงลังกา เหลือให้ได้เห็นกันอยู่บ้าง รูปปั้นของ พระยาโคตรบอง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า”พ่อปู่”
อาหารกลางวันที่ ครัวขวัญข้าว
นาท่านนั่งรถวิ่งผ่าน อุโมงค์ต้นจามจุรี ที่แผ่ขยายกิ่งสาขาปกคลุมบนถนนสายที่เชื่อมระหว่างถนนสายเลี่ยงเมืองกับสนามกีฬากลางจังหวัดพิจิตร ในเขตตาบลคลองคเชนทร์ อาเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร ซึ่งมีความร่มรื่นและสวยงาม นับเป็นหนึ่งอันซีนที่ดึงดูดหลายคนอยากมาเที่ยวจังหวัดพิจิตรแห่งหนึ่ง
ลำปาง ขุนตาล | 6
ชม วัดโพธิ์ประทับช้าง วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2242 สมัยสมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี (พระเจ้าเสือ) อายุกว่า 300 ปี เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่ประสูติของพระองค์ ด้านในมีพระวิหารสูงศิลปะแบบอยุธยา มีกาแพงล้อมรอบสองชั้น และที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสาคัญของจังหวัดจากกรมศิลปากร
จากนั้นเดินทางสู่ วัดท่าการ้อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แวะซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ
19.00 น. ถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ
เดินทางกลับถึงบ้านด้วยความสนุกสนานและประทับใจ
หมายเหตุ กาหนดการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุการณ์และความเหมาะสม
อัตรานี้รวม
- รถโค้ชปรับอากาศชั้นเยี่ยม ท่องเที่ยวตามรายการ
- ที่พักตามรายการ (พักห้องละ 2 ท่าน)
- อาหารจัดเลี้ยง พร้อมอาหารว่าง เครื่องดื่มและผลไม้
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
- ทุนประกันอุบัติเหตุ ในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท
วงเงินค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ
ท่านละ 500,000 บาท - มัคคุเทศก์และทีมงานที่เข้มแข็งจากชัยทัวร์
อัตรานี้ไม่รวม
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มนอกเหนือจากรายการ
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ,
ค่ามินิบาร์ , ค่าซักรีด
สิ่งอำนวยความสะดวกในรถ
แอลกอฮอล์สเปรย์
ทำความสะอาดพาหนะตามระยะเวลาที่กำหนด